วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2552

การดูแลผิวหน้าแต่ละวัย
ย่อมแตกต่างกันตามสภาพผิวที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัยที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ยังเป็นสาวหน้าใส ผิวพรรณ เต่งตึง การทาแค่ครีมกันแดด และล้างหน้าด้วยเคลนเซอร์สูตรอ่อนโยนก็อาจจะเพียงพอ แต่เมื่อวัยมากขึ้นรอยตีนกาเริ่มมาเยือน ผิวหน้าที่เคยเนียนใส กลับดูแห้งหรือหยาบมากขึ้น การเลือกผลิตภัณฑ์และการดูแลผิวอาจจะดูยุ่งยาก และต้องใส่ใจกันมากขึ้น เพราะปัญหาของผิวจะเริ่มปรากฎมากขึ้นนั่นเอง
วัย15-20 การดูแล : วัยรุ่นกับสิวเป็นของคู่กันเสมอ สิวในช่วงนี้มักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศ และมีตัวก่อกวนอื่น ๆ ร่วมด้วยเช่น การแคะ แกะ หรือบีบสิว รวมทั้งความเครียดและอดนอนจริง ๆ แล้ว สิวที่เกิดขึ้นมักหายไปเองตามธรรมชาติ ถ้าเราไม่ไปกดสิว ปัญหารอยดำ และการอักเสบก็จะไม่เกิดขึ้น แต่หากไม่หาย ก็ปรึกษาคุณหมอเถอะค่ะ การดูแลผิวในวัยสาวน้อย ควรล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ วันละ 2 ครั้งก็พอ และหลีกเลี่ยงเคลนเซอร์หรือโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกฮอล์ เพราะค่อนข้างแรงกับผิวอาจทำให้ผิวใส ๆ ดูกร้านก่อนวัยได้
วัย 20 ปีขึ้นไปการดูแล : ปัญหาเรื่องสิว จะลดน้อยลง ยกเว้นในคนที่ผิวมัน ที่อาจมีเม็ดสิวเป้ง ๆ ให้รำคาญใจได้ หรือคนที่มีฮอร์โมนเพศสูง ก็อาจมีสิวโผล่อยู่เรื่อย ๆ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่เคยใช้ ในช่วงสาววัย 16 ได้ดี บางครั้งอาจจะไม่เหมาะกับสาววัยนี้ก็เป็นได้ เนื่องจากผิวหน้าที่เคยอ่อนใส อาจดูหมองคล้ำ หรือแห้งกร้านได้ตามวัยที่มากขึ้น การใช้ผลิตภัณฑ์ ที่มีส่วนผสมของ AHA จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตาย และเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวหน้าสดใส เปล่งปลั่งมากขึ้นและไม่ลืมทาครีมป้องกันแดดทุกครั้ง ก่อนออกจากบ้าน เพราะแสงแดด จะทำให้ริ้วรอยมาเยือนผิวได้เร็วขึ้น ป้องกันไว้ดีกว่าแก้แน่นอนค่ะ นอกจากนี้การใช้ AHA จะทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้นจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ครีมกันแดดทุกวัน และหากเลี่ยงแดดแรง ๆ ได้ก็ควรทำค่ะ หรือจะเลือกการขัดผิวด้วยครีมขัดผิว ซึ่งผลิตมาเพื่อใช้กับผิวหน้าที่บอบบางก็สะดวกดีค่ะ วิธีขัดผิวที่ถูกต้อง ควรทำหลังจากทำความสะอาดหน้าแล้ว แต้มเจลหรือครีมขัดผิว ลงบนผิวหน้า 5 จุดคือ บริเวณ หน้าผาก แก้มทั้งสองข้างจมูก และคาง เว้นบริเวณรอบดวงตาไว้ แล้วใช้นิ้วกลางและนิ้วนาง ซึ่งมีแรงกด ค่อนข้างเบา นวดเป็นวงกลมไปในทิศเดียวกัน จะช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หลุดลอก ทำให้ผิวหน้านวลผ่อง สดใสขึ้น ทำสัปดาห์ละครั้งก็พอค่ะ หลังจาก ขัดผิวแล้วอย่าลืมทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ทุกครั้ง ซึ่งการขัดผิวจะช่วยให้ครีมบำรุงผิวซึมสู่ผิวได้ล้ำลึกขึ้น

วัย 30 ปีขึ้นไปการดูแล : ผิวหน้าของสาววัยนี้ จะมีปัญหาของริ้วรอยใต้ตา โดยเฉพาะเวลาที่คุณยิ้ม รอยตีนกาและรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผาก จะเริ่มปรากฎชัดเจนขึ้น นอกจากนี้ผิวพรรณที่เคยเปล่งปลั่ง สดใสก่อนหน้านี้ ก็จะเริ่มขาดความยืดหยุ่น ผิวหน้าจะดูหยาบกร้านขึ้น รูขุมขนโตขึ้น การดูแลผิวจึงต้องครบเครื่องมากขึ้น ทั้งการขัดผิว และมาสค์หน้า จะช่วยขจัดการหลุดลอกของผิวชั้นนอก และช่วยดูดซับสิ่งสกปรกตกค้างจากรูขุมขนส่วนลึกได้ดี ทำให้หน้าสะอาด กระชับและสดใสขึ้น และสำหรับผิวหน้าที่ เริ่มมีริ้วรอยควรเลือกมาส์ค ที่มีสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หลังการพอกหน้าและล้างสะอาดแล้ว จะทำให้หน้าผ่อง เนียนนุ่ม และมีความยืดหยุ่นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนการเลือกครีมบำรุงผิวของสาววัยนี้ ควรเน้นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเป็นพิเศษ เพราะผิวหน้าจะเริ่มแห้งมากขึ้น น้ำหล่อเลี้ยงผิวหน้าตามธรรมชาติ ผลิตน้อยลง และควรเลือกชนิดเนื้อเบา เพื่อไม่ให้ไปอุดตันรูขุมขน


นอกจากนี้ การใช้อายเจลหรืออายครีม ก็จะช่วยทำให้ผิวรอบดวงตา ชุ่มชื้นและสดใสขึ้น ส่วนครีมกันแดด ก็จำเป็นต้องใช้เป็นประจำทุกวัน

มาสก์พอกหน้าแบบประหยัดมาสค์พอกหน้าจากโยเกิร์ตล้างหน้าให้สะอาด ซับเบาๆด้วยผ้าขนหนู แล้วใช้มือแตะโยเกิร์ต(ให้ใช้ชนิดที่ไม่ผสมเนื้อผลไม้) มาพอกให้ทั่วผิวหน้า เว้นรอบปากและดวงตา นวดและคลีงเบาๆ พอกไว้ประมาณ 20 นาที จึงล้างออก หมั่นทำสัปดาห์ละ3 ครั้ง ผิวจะเปล่งปลั่งสดใส

มาสค์พอกหน้าจากมะละกอนำมะละกอมาปั่นให้ละเอียด นำพอกให้ทั่วผิวหน้า ในมะละกอจะมีเอนไซม์ที่ช่วยขจัดเซลล์ที่ตายแล้วให้หมดได้ จึงทำให้ผิวหน้า สดใส เปล่งปลั่ง


ขอขอบคูณ
ข้อมูลจาก
http://www.siamha.com/issue/data/4/00000041-1.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น